ช่วงลดน้ำหนักควรกินอย่างไร
เวลาที่สาวๆ สามารถลดน้ำหนักจนสำเร็จแล้ว เคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่าสุขภาพร่างกายกลับดูแย่ลงราวกับคนป่วย อ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง เช่น งดเนื้อสัตว์และแป้ง อดอาหาร หรือรับประทานเพียงวันละมื้อ เป็นต้นการลดน้ำหนักด้วยวิธีรับประทานอาหารที่กล่าวมาข้างต้น ถือว่าเป็นวิธีที่ทำร้ายสุขภาพร่างกายในระยะยาวอย่างยิ่ง เพราะหลังจากที่น้ำหนักลงเพียงไม่นานก็จะดีดกลับขึ้นมากกว่าเดิม หรือที่เรียกกันว่า “โยโย่ เอฟเฟกต์” เพราะฉะนั้นช่วงที่เรากำลังลดน้ำหนักจึงควรรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารอย่างครบถ้วนตามหลักดังนี้
ต้องได้รับพลังงานอย่างเพียงพอ
สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหารนั้น ควรจะได้รับพลังงานจากอาหารเพื่อทำกิจกรรมระหว่างวัน โดยผู้หญิงจะต้องได้รับพลังงานวันละ 1,200 กิโลแคลอรี ส่วนผู้ชายจะต้องได้รับพลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรี จึงจะทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติห้ามงดแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต
ถึงแม้ว่าแป้งและน้ำตาลจะเป็นสาเหตุของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น แต่ร่างกายของเรากลับต้องการพลังงานจากสารอาหารประเภทนี้ เพื่อช่วยให้ร่างกายดำเนินกิจกรรมระหว่างวันต่อไปได้ หากสมองขาดน้ำตาลกลูโคสจะทำให้อ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง สมองตื้อ ดังนั้นผู้ที่ลดน้ำหนักจึงควรบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตประมาณวันละ 130 – 150 กรัมรับประทานโปรตีนอย่างเหมาะสม
เราควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีนให้เพียงพอ โดยเน้นที่คุณภาพของโปรตีนที่ดีเป็นเรื่องสำคัญอย่างเช่นเนื้อปลา ไข่ และถั่วต่างๆ เพื่อช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายส่วนต่างๆ และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการสลายตัวของกล้ามเนื้อที่จะมีผลให้ลดน้ำหนักยากขึ้นไขมันก็จำเป็นต่อร่างกาย
ไขมันเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยในการดูดซึมวิตามินต่างๆ และยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของสมองกับเซลล์ประสาท แต่เพื่อให้การลดน้ำหนักนั้นได้ผล เราควรได้รับพลังงานจากไขมันไม่เกิน 25% จากพลังงานทั้งหมดที่ได้รับ พร้อมกับเลือกรับประทานไขมันชนิดไม่อิ่มตัวอย่างเช่นน้ำมันรำข้าวหรือน้ำมันมะกอกจะดีกว่าผักผลไม้ต้องบริโภคห้ามขาด
ในผักผลไม้จะอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย แม้ว่าจะไม่ให้พลังงานแต่ก็ช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานเป็นปกติ อีกทั้งยังมีใยอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย และช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลกับไขมัน ทำให้รู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนักอีกทางหนึ่งดื่มน้ำเปล่ามากๆ
จากการที่เราควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดเพื่อลดน้ำหนัก หรือการออกกำลังกายที่ทำให้เสียเหงื่อจำนวนมาก อาจจะส่งผลให้เรารู้สึกอ่อนเพลียไปบ้าง ดังนั้นเราจึงควรเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวานให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ซึ่งสามารถช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นมากขึ้นและคลายความหิวได้พอสมควร เมื่อดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วก่อนมื้ออาหารการที่เราจะลดน้ำหนักให้ได้ผลดีโดยไม่ทำร้ายสุขภาพ ก็ควรรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการที่ได้แนะนำไว้ เพราะถ้าขาดสารอาหารไปเพียงหมู่ใดหมู่หนึ่ง ถึงแม้ว่าน้ำหนักจะลดลงจนน่าพอใจ แต่จะเป็นผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวจนเป็นอันตรายได้ค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง : www.catpick.com
www.ladytip.com
Posting Komentar
Posting Komentar